วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วันคริสต์มาส

         คริสต์มาส (อังกฤษ: Christmas) หมายถึง พิธีมิสซาของพระคริสต์ หรือวันสมโภชพระคริสตสมภพ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู เป็นวันหยุดทางศาสนาและวัฒนธรรม ประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจัดการเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคม วันดังกล่าวเน้นปีพิธีกรรมของคริสต์ศาสนิกชนเป็นสำคัญ วันคริสต์มาสเป็นวันปิดเทศกาลเตรียมการรับเสด็จ (Advent) และวันเริ่มต้นเทศกาลพระคริสตสมภพ (Christmastide) สิบสองวัน คริสต์มาสเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก และมีผู้ที่ไม่ใช่คริสต์ศาสนิกชนหันมาเฉลิมฉลองกันมากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในคริสต์มาสและฤดูวันหยุด


          วันที่พระเยซูประสูติจริง ๆ นั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่คะเนไว้ว่าราว 2 ปีก่อน ค.ศ. และ ค.ศ. 7 ในช่วงต้นถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 4 ศาสนาคริสต์ตะวันตกกำหนดวันคริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งต่อมาศาสนาคริสต์ตะวันออกได้รับวันดังกล่าวไปด้วย มีทฤษฎีอธิบายว่า เหตุผลที่เลือกวันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันเฉลิมฉลองคริสตสมภพนั้นเพราะเป็นเวลาเก้าเดือนพอดีหลังคริสต์ศาสนิกชนสมัยแรกเฉลิมฉลองวันแม่พระรับสารหรือตรงกับวันเหมายันของโรมัน หรือเทศกาลฤดูหนาวเพเกินโบราณเพื่อยุติการเฉลิมฉลองเหล่านี้และแทนที่ด้วยการฉลองของคริสต์
ศาสนิกชน

      วันการเฉลิมฉลองในศาสนาคริสต์ตะวันออกแต่เดิม คือ วันที่ 6 มกราคม โดยเชื่อมโยงกับวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ ในปัจจุบัน วันดังกล่าวยังเป็นวันเฉลิมฉลองสำหรับคริสตจักรอาร์มีเนียอะโพสโตลิกและในประเทศอาร์มีเนียซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จนถึง ค.ศ. 2011 ระหว่างปฏิทินเกรโกเรียนสมัยใหม่และปฏิทินจูเลียนที่เก่ากว่า มีวันคลาดเคลื่อนกันอยู่ 13 วัน ผู้ที่ยังใช้ปฏิทินจูเลียนหรือเทียบเท่าต่อไปจึงเฉลิมฉลองวันที่ 25 ธันวาคมและ 6 มกราคมที่ประชากรโลกส่วนใหญ่เฉลิมฉลอง ในวันที่ 7 มกราคมและ 19 มกราคมแทน ด้วยเหตุนี้ เอธิโอเปีย รัสเซีย ยูเครน มาเซโดเนียและมอลโดวาจึงเฉลิมฉลองคริสต์มาส ทั้งที่เป็นวันสมโภชของคริสต์ศาสนิกชนและที่เป็นวันหยุดราชการ ตามในปฏิทินเกรโกเรียนคือ วันที่ 7 มกราคม

        ประเพณีการเฉลิมฉลองอันเป็นที่นิยมที่เหมือนกันในหลายประเทศมีการผสมผสานแนวคิดและกำเนิดก่อนศาสนาคริสต์ สมัยศาสนาคริสต์ และฆราวาส ประเพณีสมัยใหม่ที่ได้รับความนิยมในวันดังกล่าวมีการให้ของขวัญ เพลงคริสต์มาสและเพลงเทศกาล การแลกเปลี่ยนการ์ดคริสต์มาส การตกแต่งโบสถ์ มื้อพิเศษ และการจัดแสดงการประดับตกแต่งหลายอย่าง รวมทั้งต้นคริสต์มาส แสงไฟ ฉากการประสูติของพระเยซู มาลัย พวงหรีด มิสเซิลโทและฮอลลี นอกเหนือจากนั้น บุคคลที่เกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดและแทนกันได้บ่อยครั้งหลายคน เช่น ซานตาคลอส ฟาเธอร์คริสต์มาส นักบุญนิโคลัส และคริสต์คินด์ เกี่ยวข้องกับการให้ของขวัญแก่เด็กในเทศกาลคริสต์มาส และต่างมีประเพณีและตำนานเป็นของตนเอง เพราะการให้ของขวัญและอีกหลายส่วนของเทศกาลคริสต์มาสเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในบรรดาคริสต์ศาสนิกชนและผู้ที่มิใช่ วันคริสต์มาสจึงเป็นเหตุสำคัญและช่วงลดราคาหลักสำหรับผู้ค้าปลีกและธุรกิจ ผลกระทบทางเศรษฐกิจของคริสต์มาสเป็นปัจจัยซึ่งเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาในหลายภูมิภาคทั่วโลก
     
                  กิจกรรมต่างๆในวันคริสต์มาส

        การตกแต่งโบสถ์คริสต์
        การให้ของขวัญและการ์ดคริสต์มาสแก่กัน                                 การร่วมเพลงคริสต์มาส
        การรับประทานอาหารมื้อพิเศษร่วมกันในครอบครัว
        การประดับตกแต่งบ้านเรือน อาคาร ด้วยต้นคริสมาสต์



                             การประดับต้นคริสมาสต์

        มีเรื่องเล่าว่าในอดีตสมัยศตวรรษที่ 8 มิชชันนารีชาวอังกฤษเดินทางไปยังเยอรมนี และได้ช่วยเหลือชีวิตเด็กชายที่กำลังจะถูกฆ่าเพื่อนำไปบูชายัญที่ใต้ต้นโอ๊ก แต่เมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่โคนต้นโอ๊ก มิชชันนารีชาวอังกฤษจึงขุดให้คนที่ร่วมพิธีกรรมเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต
        ต่อมามาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ได้ตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคมหลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่ไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก


                 
               การร้องเพลงคริสมาสต์กันด้วย

         ว่ากันว่าที่ผู้คนเริ่มร้องเพลงในช่วงคริสต์มาสนั้นมาจากการที่นางฟ้าทั้งหลายได้ร้องเพลงประสานเสียงหลังจากที่ปรากฎกายลงมาต่อกลุ่มคนเลี้ยงแกะที่เมืองเบธเลเฮม เพื่อป่าวประกาศว่า
พระเยซูได้ประสูติลงมายังโลกนี้แล้ว โดยก่อนหน้านี้จะมีการร้องเพลง carol โดยผู้คนจะเต้นรำเป็นวงกลมและจับมือกันร้องเพลง แต่ในภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงเป็นบาทหลวงและผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ที่ร้องกันในโบสถ์เท่านั้นก็ตาม แต่การร้องเพลงคริสมาสต์ก็ยังคงมีอยู่

       

                   สีในวันคริสต์มาส


สีแดง : เป็นสีที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นมากที่สุดและเป็นสี     ของเดือนธันวาคม ซึ่งตามสัญลักษณ์ตามศาสนานั้นหมายถึงไฟ, เลือด และความโอบอ้อมอารี

สีเขียว : เป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ, ความอ่อนเยาว์และ       ความหวังที่จะมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ซึ่งก็เปรียบได้ว่าคริสต์มาส
นั้นเป็นเสมือนเทศกาลแห่งความหวังด้วย

สีขาว : คือสัญลักษณ์ทางศาสนา ซึ่งได้แก่ แสงสว่าง,
ความบริสุทธิ์, ความสุขและความรุ่งเรืองสีขาวคือสีที่มัก         จะเห็นบนเสื้อคลุมของนางฟ้าคริสต์มาส,
เคราของซานตาคลอส,ริมชายเสื้อสีขาวของชุดซานตาคลอส,หิมะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและสะเก็ดของหิมะ

สีทอง : เป็นสัญลักษณ์ของแสงอาทิตย์และความสว่างไสว นอกจากนี้ยังเป็นสีของดาว           คริสต์มาส,เครื่องประดับ,เทียน,หลอดไฟ






วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อาชีพหมอ


อาชีพหมอ


             อาชีพหมอ หรือแพทย์

แพทย์ คือ ผู้ให้บริการด้านการรักษาสุขภาพร่างกาย และจิตใจใน

ด้านต่าง ๆ

แพทย์ ในยุคปัจจุบันแบ่งออกได้หลายสาขา ตามสาขาเฉพาะทาง 

ยกตัวอย่างเช่นโรคผิวหนัง อายุรกรรม ศัลยกรรม โรคกระดูก โรคหู

คอ โรคต่อมไร้ท้อ ระบบประสาท โรค แพทย์ผ่าตัด แพทย์ทั่วไป ฯลฯ

              ลักษณะงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ
วินิจฉัยโรคหรืออาการของโรค

ให้การรักษาโรค

ให้คำแนะนำทางการแพทย์

              คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
1. มีความรู้ความสามารถทางวิชาการ

2. มีผลการเรียนอยู่ในระดับดีถึงดีมาก

3. มีสิตปัญญาดี

4. มีสุขาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์

5. เป็นผู้เสียสละ

6. รักและศรัทธาต่อวิชาชีพแพทย์

7. มีความมั่นใจในตนเอง

8. ไม่กลัวเลือด

9. ชอบการให้บริการ

10. ไม่รังเกลียดคนป่วย

11. ชื่นชอบงานท้าทาย

12. อดทนต่อสภาพแรงกดดันได้ดี

13. มีความซื่อสัตย์

14. อื่นๆ

              แนวทางพัฒนาอาชีพ
1. แพทย์

2. แพทย์ประจำตำบล

3. แพทย์ประจำโรงพยาบาลอำเภอ

4. แพทย์ประจำโรงพยาบาลจังหวัด

5. แพทย์โรงพยาบาลเอกชน

6. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

7. ผู้ประกอบการโรงพยาบาล

8. เจ้าของคลินิก

9. อาจารย์หมอ

10. อื่น ๆ



                            











                                            ที่มา  http://naenaew.blogspot.com

อาชีพตำรวจ


อาชีพตำรวจ



                       อาชีพตำรวจ

               รายละเอียดของอาชีพ

อาชีพตำรวจหรืออาชีพผู้พิทักษ์สินติราช เพื่อความยุติธรรมในสังคม

ตำรวจ คือ ผู้รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน

อาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความ

สงบเรียบร้อย ค่อยรักษาความปลอดภัยให้กับผู้คนในสังคมอาชีพตำรวจจึงเป็นอาชีพที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี

ซึ่งเป็นงานที่เสียสละเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและประชาชน

ลักษณะงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ

1. ป้องกันการกระทำผิด

2. ปราบปรามการกระทำผิด

3. รักษาความสงบเรียบร้อย

4. บรรเทาทุกให้กับประชาชน

5. อื่น ๆ

คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ

1. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์

2. มีความอดทน

3. มีทักษะทางด้านกีฬา เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง

4. มีความซื่อสัตย์สุจริต

5. รักความยุติธรรม

6. มีความเสียสละทั้งแรงกายแรงใจ

7. มีความกล้าหาญ

8. มีระเอียดความรอบคอบ

9. มีระเบียบวินัย

10. มีบุคลิกภาพและมีความสูงตามที่กำหนดไว้

11. อื่น ๆ

แนวทางพัฒนาอาชีพ

1. ตำตรวจชั้นต่ำกว่าประทวน

2. ตำรวจชั้นประทวน

3. ตำรวจชั้นสัญญาบัตร

4. ตำรวจตระเวนชายแดน

5. ตำรวจกรมป่าไม้

6. ตำรวจภูธร

7. ตำรวจทางหลวง

8. ตำรวจจราจร

9. ตำรวจสันติบาล

10. ตำรวจรถไฟ

11. ตำรวจน้ำ

12. ตำรวจกองปราบ

13. ตำรวจนครบาล

14. ตำรวจสภา

15. ตำรวจวัง

16. ตำรวจหลวง

17. ตำรวจปฏิบัติราชการลับ

18. ตำรวจดับเพลิง

19. ตำรวจไอซีที

20. บอดี้การ์ด

21. อื่น ๆ



ที่มา  http://naenaew.blogspot.com